วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

4 ขั้นตอนปรับแต่ง Window 7 ให้เร็วขึ้

window-7-thumb

Window 7

Window 7 ระบบปฏิบัติการใหม่ของ Microsoft ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจากผู้ใช้งานทั้งหลาย แต่ว่าก็มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งที่ผู้ใช้หลายๆ คนเจอปัญหา นั่นก็คือการทำงานที่ช้าของ window 7 วันนี้เลยมีวิธีในการปรับแต่ง window 7 ให้เร็วขึ้นโดยที่ไม่ต้องไปเพิ่ม RAM หรือ upgrade CPU มาฝาก

ขั้นตอนที่1 ในการปรับแต่งความเร็วของ Window 7 คือการจัดการกับ startup ให้มีจำนวนของ program เท่ากับที่จำเป็นหรือมีแค่ program ที่เราต้องการเท่านั้น เพื่อไม่ต้องให้ window 7 ไปเสียเวลาเรียก program ที่เราไม่ได้ใช้ขึ้นมา ทำได้โดย
  • พิมพ์ “msconfig” ลงในช่อง Search ของ Start Menu แล้วกด enter เพื่อเข้าไปจัดการกับ system configuration
  • จากนั้นไปที่ tab “Startup” แล้วทำการ disable program ที่เราไม่ต้องการให้ถูกเรียกใช้งานตอนที่ทำการ boot window 7 ขึ้นมา
  • ข้อควรระวังคือทำการ disable เฉพาะ program ที่เรารู้จักและแน่ใจจริงๆ ว่าไม่ต้องการใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้ window 7 ทำงานผิดพลาด
System Configuration
ขั้นตอนที่2 เพิ่มความเร็วในการ Boot ของ window 7 ทำได้โดย
  • พิมพ์ “msconfig” ลงในช่อง Search ของ Start Menu แล้วกด enter เพื่อเข้าไปจัดการกับ system configuration
  • จากนั้นไปที่ tab “Boot” แล้วเลือก “Advance Options” เพื่อทำการตั้งค่าของ “Number of processor”
ขั้นตอนที่3 ลดเวลาในการ Shut down ของ window 7 ทำได้โดย
  • พิมพ์ “regedit” ลงในช่อง Search ของ Start Menu แล้วกด enter เพื่อเข้าไปแก้ไข registry ของ window 7
  • Registry Editor จะเปิดขึ้นมาจากนั้น จากนั้นเลือกไปที่ “HKEY_LOCAL_MACHINE/SYSTEM/CurrentControlSet/Control”
  • คลิ้กขวาที่ “WaitToKillServiceTimeOut” เพื่อเปลี่ยนค่าของเวลา แล้วทำการตั้งค่าเป็นตัวเลขที่น้อยลง โดยปกติอยู่ระหว่าง 2000 – 20000 หรือ 2 – 20 วินาที
Registry Editor

ขั้นตอนที่4 ก็คือทำความสะอาด Window 7 หรือเรียกอีกอย่างว่าจัดการกับขยะที่สะสมอยู่ใน window 7 หลังจากการใช้งานไปซักพักอยู่เสมอๆ เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการหาและเข้าถึงข้อมูลของ hard disk ทำได้โดย
  • ลบ file จาก Temp Directory โดยพิมพ์ %temp% ในช่อง Search ของ Start Menu แล้วกด Enter จากนั้นทำการลบ file ที่อยู่ใน folder
  • ลบ file จาก Software Distribution โดยเปิดหน้าต่าง Windows Explorer แล้วพิมพ์ C:\Windows\SoftwareDistribution\Download ลงไปใน Address Bar แล้วกด Enter จากนั้นทำการลบ file ที่อยู่ใน folder
  • ลบ file จาก Internet Cache Files ลบได้จากเมนูใน browse ที่เราใช้
  • ลบ file จาก Window TEMP Directory โดยพิมพ์ C:\Windows\Temp ในช่อง Search ของ Start Menu แล้วกด Enter จากนั้นทำการลบ file ที่อยู่ใน folder
  • ลบ file จาก Recycle Bin สำหรับอันนี้ทุกคนคงทำเป็นแค่คลิกขวาที่ Recycle bin แล้วเลือกคำสั่ง Empty Recycle Bin ง่ายๆ แต่สำคัญเพราะ file ทั้งหมดที่ถูกลบจากขั้นตอนด้านบนจะมาอยู่ที่ Recycle Bin นี่จนกว่าเราจะทำการลบ file ทั้งหมดในนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น